เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่เจี๊ยะ วัดป่าภูริทัตตปฎิปทาราม |
|
|
|
|
หมวดหมู่พระเครื่อง |
: |
พระเหรียญ (พ.ศ. 2530-ปัจจุบัน) |
ประเภท |
: |
พระเครื่องทั่วไป |
สถานะ |
: |
พร้อมเช่า |
ราคาพระเครื่อง |
: |
สอบถาม |
วันที่ลงประกาศ |
: |
16 กุมภาพันธ์ 2556 11:54:27 |
อัพเดทล่าสุด |
: |
2 พฤศจิกายน 2556 09:07:41 |
จํานวนผู้เข้าชม |
: |
4253 ครั้ง |
|
|
|
|
|
|
|
เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่เจี๊ยะ วัดป่าภูริทัตตปฎิปทารามเหรียญรุ่นแรก หลวงปู่เจี๊ยะ เนื้อทองแดง พิมพ์ใหญ่ ปี พ.ศ. 2539 (สภาพสวยมาก)
หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ริ้วห่อทอง พระเดชพระคุณหลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท
พระอริยเจ้าผู้เด็ดเดี่ยวอาจหาญในสายกรรมฐานของท่านพระอาจารย์มั่น
ภูริทตฺโต ท่านได้รับการยกย่องจากท่านพระอาจารย์มั่นว่า
“เป็นผ้าขี้ริ้วห่อทอง” อุปนิสัยของท่านเป็นคนตรงไปตรงมา
มีปฏิปทายอมหักไม่ยอมงอ ท่านสละทรัพย์และชีวิตเพื่อธรรม
เป็นผู้มีความกตัญญูกตเวที จงรักภักดีต่อท่านพระอาจารย์มั่นยิ่งกว่าชีวิต
ท่านได้รับความไว้วางใจจากท่านพระอาจารย์มั่น
ให้เดินทางไปเฝ้าอุปัฏฐากหลวงปู่เสาร์
ซึ่งอาพาธหนักถึงเมืองนครจำปาศักดิ์ประเทศลาว จนกระทั่งหลวงปู่เสาร์มรณภาพ
ประวัติ ปฏิปทา คติธรรม
ของท่านอาจแตกต่างจากพระกรรมฐานรูปอื่นในแง่ปลีกย่อย
ท่านไม่กว้างขว้างเรื่องปริยัติธรรมภายนอก รอบรู้เฉพาะเรื่องจิตตภาวนา
อันเป็นธรรมภายใน ท่านปฏิบัติลำบากแต่รู้เร็ว
คำสอนของท่านก็เป็นประเภทปัจเจกะ มุ่งเน้นทางด้านจิตใจเป็นส่วนใหญ่
ประกอบกับท่านมีบารมีธรรมที่บ่มบำเพ็ญมาแต่ชาติปางก่อนเป็นสิ่งที่ช่วยเกื้อ
หนุนอยู่อย่างลึกลับ การปฏิบัติของท่านจึงนับว่ารู้ธรรมเร็วในยุคปัจจุบัน
ท่านจึงเป็นแบบอย่างทางสงบแก่โลกที่ระงมปนเปื้อนไปด้วยกองทุกข์นานัปการ
ท่านสอนให้พวกเรามองอะไร ไม่ควรมองแต่ด้านเดียว การมองอะไร
ไม่เพียงใช้สายตาเป็นเครื่องตัดสินเท่านั้น แต่ต้องใช้แววตาคือ ปัญญา
เพราะผู้ปฏิบัติธรรมไม่ควรมองข้ามปมคำสอน เพียงเพราะสายตาเท่านั้น
ควรพิจารณาให้ถ้วนถี่ เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ที่ส่องแสงสว่างแก่โลก
ย่อมไม่ละเลยทั้งกอไผ่และภูผา
หลวงปู่เจี๊ยะท่านจึงเป็นผู้มีจิตอิสระมานาน
ไม่เกี่ยวเกาะยึดติดพัวพันในบุคคล กาล
สถานที่การปฏิบัติของท่านมุ่งเน้นที่ผลการปฏิบัติมากกว่ารูปแบบแห่งการ
ปฏิบัติ เพราะนี่เป็นนิสัยสะท้านโลกาและปฏิปทาที่เป็นปัจจัตตัง ยากที่ใครๆ
จะเลียนแบบได้ หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
ได้กล่าวยกย่องชมเชยในคุณธรรมว่า “พระอาจารย์เจี๊ยะเป็นผ้าขี้ริ้วห่อทอง
เป็นเพชรน้ำหนึ่งที่หาได้โดยยากยิ่ง”
ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๕๙ ตรงกับวันอังคาร เดือน ๗ ขึ้น ๖
ค่ำ ปีมะโรง ณ บ้านคลองน้ำเค็ม ตำบลคลองน้ำเค็ม อำเภอแหลมสิงห์
จังหวัดจันทบุรี เป็นบุตรของนายซุ่นแฉ่ และ นางแฟ โพธิกิจ
ในวัยหนุ่มทำมาค้าขายผลไม้ นิสัยออกจะติดทางนักเลง
ต้นตระกูลเป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนจริงจังในหน้าที่การงาน ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ
พูดจาโฮกฮากไม่กลัวคน ท่านอุปสมบทเมื่อวันที่ ๑๑
กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ เวลา ๑๖.๑๙ น. ณ พัทธสีมาวัดจันทนาราม ตำบลจันทนิมิต
อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี โดยมี พระครูครุนารถสมาจาร (เศียร)
เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูพิพัฒน์พิหารการ (เชย) เป็นพระกรรมวาจาจารย์
ท่านพ่อลี ธมฺมธโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์
เมื่ออุปสมบทแล้ว ท่านได้ร่วมปฏิบัติธรรมจำพรรษากับท่านพระอาจารย์กงมา
จิรปุญฺโญ ที่เสนาสนะป่าช้าผีดิบบ้านหนองบัว ปัจจุบันคือวัดทรายงาม
จังหวัดจันทบุรี ท่านปฏิบัติกรรมฐานด้วยอิริยาบถ ๓ คือ ยืนภาวนา เดินจงกรม นั่งสมาธิ แบบสละตายด้วยการตั้งสัจจะอธิษฐานว่า
“ข้าพเจ้าจะถือเนสัชชิ คือในเวลาค่ำคืนไม่นอนตลอดไตรมาส
ด้วยพระพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆานุภาพ
ถ้าหากแม้นว่าข้าพเจ้าไม่ทำตามสัจจะนี้ขอให้ข้าพเจ้าถูกฟ้าผ่าตาย
แผ่นดินสูบตาย ไฟไหม้ตาย น้ำท่วมตาย
แต่ถ้าหากว่าข้าพเจ้าปฏิบัติตามสัจจะที่ตั้งไว้
ขอจงเป็นผู้เจริญงอกงามในธรรมวินัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว
เทอญฯ” พรรษาที่ ๓
จิตของท่านเกิดรวมครั้งใหญ่ใต้ต้นกระบก
ด้วยการหยั่งสติปัญญาลงในกายานุปัสสนา หยั่งลงสู่ความจริงประจักษ์ใจ
โลกสมมุติทั้งหลายไม่มีปรากฏขึ้นกับใจ ประหนึ่งว่าแผ่นดินแผ่นฟ้าละลายหมด
เหลือแต่จิตดวงบริสุทธิ์เท่านั้น ปลายปี
พุทธศักราช ๒๔๘๒ ท่านได้กราบลาท่านพระอาจารย์กงมา จิรปุญฺโญ และท่านพ่อลี
ธมฺมธโร เดินทางไปยังจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกับสหธรรมิก
คือท่านพระอาจารย์เฟื่อง โชติโก
เพื่อนำธรรมที่รู้เห็นไปเล่าถวายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต
เป็นที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง เมื่อถึงเสนาสนะวัดร้างป่าแดง
อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
ท่านพระอาจารย์มั่นทรายเหตุการณ์ล่วงหน้าโดยตลอดจึงปูอาสนะนั่งรอท่าอยู่บน
แคร่น้อยๆ
เมื่อได้โอกาสอันสมควรจึงเล่าเรื่องภาวนาให้ท่านพระอาจารย์มั่นฟังว่า
“ได้พิจารณากาย จนกระทั่งใจนี้มันขาดไปเลย” ท่านพระอาจารย์มั่นนั่งฟังนิ่ง
ยอมรับแบบอริยมุนี ไม่คัดค้านในสิ่งที่เล่าถวายแม้แต่น้อย
ต่อมาอีกไม่นานนัก ฟันของท่านพระอาจารย์มั่นหลุดแล้วท่านก็ยื่นให้
การที่ท่านมอบฟันให้นั้นหลวงปู้เจี๊ยะเล่าว่า
“ท่านคงรู้ได้ด้วยอนาคตตังสญาณว่าเราจะมีวาสนาสร้างภูริทัตตเจดีย์บรรจุทันต
ธาตุถวายท่านเป็นแน่แท้” ตั้งแต่ปีพุทธศักราช
๒๔๘๓-๒๔๘๕ หลวงปู่เจี๊ยะ เป็นพระคิลานุปัฏฐาก
และเป็นปัจฉาสมณะเป็นประดุจเงาติดตามตัวท่านพระอาจารย์มั่นมาโดยตลอด
เมื่อท่านพระอาจารย์มั่นรับนิมนต์ท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์เดินธุดงค์จากทางภาค
เหนือมายังภาคอีสาน พักจำพรรษาที่เสนาสนะป่าเป็นที่ทิ้งศพโนนนิเวศน์
จังหวัดอุดรธานี ๒
พรรษาจึงธุดงค์จาริกต่อไปยังจังหวัดสกลนครพักจำพรรษาที่เสนาสนะป่าบ้านโคก
ที่เสนาสนะป่าบ้านโคกนี้เอง
ท่านพระอาจารย์มั่นได้กล่าวชมเชยในคุณธรรมและนิสัยวาสนาของหลวงปู่เจี๊ยะ
ท่ามกลางหมู่สงฆ์ว่า “ทุกขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา
ท่านรูปนี้ผฏิบัติลำบากแต่รู้เร็ว ปฏิบัติเพียง ๓
ปีเท่ากับเราปฏิบัติภาวนามาเป็นเวลา ๒๒ ปี
อันนี้อยู่ที่นิสัยวาสนาเพราะนิสัยวาสนาของคนมันต่างกัน”
ต้นปีพุทธศักราช ๒๔๙๒ ขณะที่ท่านเข้าที่หลีกเร้นภาวนาในป่าดงลึก ณ
เชิงเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี
เกิดป่วยเป็นไข้มาเลเรียอย่างหนัก ในขณะป่วยหนักนั้นท่านเล่าว่า
“จิตเป็นธรรมชาติที่อัศจรรย์ตลอดเวลา พิจารณาจนกระทั่งจิตมันดับหมด
หยุดความคิดค้น จิตปล่อย วางสิ่งทั้งปวง คว่ำวัฏฏจักร วัฏฏจิต แหวกอวิชชา
และโมหะอันเป็นประดุจตาข่าย กิเลสขาดสะบั้นออกจากใจ
จิตมีอิสระอย่างสูงสุดเกินที่จะประมาณได้”
ต้นปีพุทธศักราช ๒๔๙๓
หลังจากถวายเพลิงศพท่านพระอาจารย์มั่นแล้วท่านจึงย้อนกลับไปจังหวัดจันทบุรี
อันเป็นบ้านเกิด เพื่อโปรดโยมมารดาซึ่งป่วยหนัก
ด้วยหวังจะทดแทนบุญคุณข้าวป้อนด้วยอรรถด้วยธรรม
ท่านจึงดำริปักหลักสร้างวัดเขาแก้ว ตำบลท่าช้าง
อำเภอเมืองและได้สร้างวัดบ้านสถานีกสิกรรม อำเภอพลิ้ว ถวายหลวงตามหาบัว
ญาณสมฺปนฺโน ปีพุทธศักราช ๒๕๒๐ สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราชได้นิมนต์ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสและร่วมสร้างวัดญาณสังวราราม
จังหวัดชลบุรี ปีพุทธศักราช ๒๕๒๖
คณะศรัทธาได้ถวายที่ดินบริเวณบ้านคลองสระ ตำบลคลองควาย อำเภอสามโคก
จังหวัดปทุมธานี แก่หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
หลวงตาได้นิมนต์ท่านมาอยู่เป็นเจ้าอาวาส และท่านได้สร้าง
“วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม” และอยู่จำพรรษามาโดยตอลด
แม้ว่าท่านจะเป็นพระเถระผู้ใหญ่และได้สร้างวัดวาอารามใหญ่โตแล้ว
ท่านก็ยังเที่ยวภาวนาตามป่าตามเขาท้องถ้ำและเงื้อมผา
จนกระทั่งร่างกายเดินไม่ไหว
ท่านละขันธ์เข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพานด้วยความสงบและอาจหาญในธรรม ณ
โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ เมื่อวนัที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ เวลาประมาณ
๒๓.๕๕ น. สิริอายุรวม ๘๘ ปี ๒ เดือน ๑๗ วัน ๖๘ พรรษา
เอกลักษณ์ของท่านที่ชอบถือขวานและท่านแจกขวานให้บรรดาลูกศิษย์โดยเฉพาะที่
เป็นพระเพื่อสอนปริศนาธรรมว่า ใช้ขวานในการถาก และตัดกิเลส นั่นเอง “แล้วทำไม ท่านอาจารย์จึงชอบตีเหล็กนัก” โยมคนนั้นถามขึ้น
พระอาจารย์เจี๊ยะตอบว่า “ทีแรกเราก็ไปซื้อขวานมา แล้วมันฟันไม่ได้ล่ะซิ
ซื้อมาทีไร มาฟันก็ไม่ค่อยมีคม เจ็บใจ เลยเอาแหนบรถสิบล้อมาตีเอ็งเลย
ทำไปทำมามันคมกว่าที่เขาขายอีก” “แล้วผิดข้อวัตรปฏิบัติมั้ยครับท่านอาจารย์” เขาถามด้วยความสงสัย “ไม่ผิดหรอก ตีขวานมันไม่ผิดหรอก ไม่เห็นมีวินัยข้อไหนห้ามพระตีขวาน “บางคนเขาว่า ท่านอาจารย์ทำในเรื่องไม่ใช่กิจของสงฆ์”
“ฮือ!...ทำไมจะไม่ใช่ ? เราเป็นพระสงฆ์ เอามาตีเอง จะไปผิดอะไร
ไม่ได้ไปฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ทำบาปกรรมอะไรนี่นา มันจะบาปได้ไง ไม่บาป
พระสงฆ์ตีเองกับมือ จะไม่ใช่กิจของสงฆ์ได้ไง” “ท่านอาจารย์ตีเพื่อใช้เอง หรือเอาไปให้คนอื่นใช้ล่ะ”
“ใช้เองก็ได้ ให้คนอื่นเพื่อทำทานก็ได้ฮิ ทำให้มันเป็นประโยชน์
ตีมีดตีขวานด้วย ตีกิเลสความขี้เกียจขี้คร้านออกด้วยก็ยิ่งดี
บางทีนำมาพิจารณาก็เป็นธรรมได้เหมือนกัน”
ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.facebook.com/pages/วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม/181523415219585
|
|
รายการพระเครื่องแนะนำของร้าน | |
|
|
|
|
|
|
|
|
ราคา: ผู้มีวาสนาดีเช่าไปแล้ว |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ราคา: ผู้มีวาสนาดีเช่าไปแล้ว |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
VIP AMULET ตลาดพระเครื่องออนไลน์ - รับเช่าพระเครื่อง ซื้อขายพระเครื่อง เปิดร้านขายของออนไลน์ฟรี |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
 |
พระเครื่องทั้งหมด
139 รายการ |
|
 |
จำนวนผู้เข้าชมร้านพระ 143308 ครั้ง |
|
|
|
|
เจ้าของร้านพระ คุณปริยากร |
|
ที่อยู่
รังสิต จังหวัดปทุมธานี 12130 |
|
เบอร์โทรศัพท์
-เห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น- |
|
Email :
-เห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น- |
|
|
|
ชื่อบัญชี
-เห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น- |
|
เลขที่บัญชี
-เห็นเฉพาะสมาชิกเท่านั้น- |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|