ตลาดพระ

ตลาดพระเครื่อง VIP AMULET

ตลาดพระเครื่อง - โฆษณา
หน้าแรก ตลาดพระเครื่อง ร้านพระเครื่อง ประมูลพระเครื่อง ประกาศเช่าพระฟรี ! เปิดร้านพระเครื่อง การชำระเงิน ติดต่อเรา
ค้นหา พระเครื่อง ร้านพระเครื่อง ประมูลพระเครื่อง ลงประกาศฟรี
หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
ข้อมูลผู้ลงประกาศ
ความต้องการ : ประกาศ
ราคา : ไม่ระบุ
วันที่ลงประกาศ : 22 ธันวาคม 2566 10:54:54
อัพเดทล่าสุด : 3 พฤษภาคม 2567 05:51:04
ผู้ลงประกาศ : krisana99
ที่อยู่ : ต.งิ้วราย อ.เมือง จังหวัดลพบุรี
เบอร์โทรศัพท์ : 083-9034905 lD LINE : limnum1986
อีเมล์ : [email protected]
เข้าชม : 158 ครั้ง
ไอพี : 182.232.149.175
 
รายละเอียดเพิ่มเติม
"กลุ่ม หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี"
เปิดประมูล /โชว์ /แลกเปลี่ยนความรู้ 
เชิญได้เลยครับ 
(ประวัติโดยย่อ)
ประวัติของพระครูประสาทวรคุณ (พริ้ง มณีธาโน) อายุ84 พรรษา 64 วัดโบสถ์ ตำบลโก่งธนู อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี อดีตดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลโก่งธนู สถานะและชาติกำเนิดของหลวงพ่อ นามเดิม ชื่อพริ้ง นามสกุล เพ็งรอด เกิดเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2443 ปีชวด ตรงกับ วันศุกร์ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 12 บิดาชื่อนายดึก มารดาชื่อ นางแสง นามสกุล เพ็งรอด บ้านคุ้งนามอญ ตำบลโก่งธนู อ.เมือง จ.ลพบุรีมีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 6 คนคือ1. หลวงพ่อพริ้ง เพ็งรอด2. นางผลบ ไข่หงส์3. นายกรู่ เพ็งรอด4. นายโหน่ง เพ็งรอด5. นายบ่าย เพ็งรอด6. นางสาวสาคร เพ็งรอดอุปสมบทเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2463 ณ พัทธสีมาวัดญาณเสน ตำบลโก่งธนู อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี หลวงพ่อหลำเจ้าอาวาสวัดญาณเสนเป็นอุปัชฌายะ หลวงพ่อแสน วัดญาณเสนเป็นกรรมวาจารย์ หลวงพ่อฝอย วัดญาณเสน เป็นอนุสาวนาจารย์ชีวิตในวัยเยาว์เมื่อหลวงพ่อยังอยู่ในเยาว์วัย ท่านได้ช่วยโยมพ่อและโยมแม่ประกอบอาชีพตามประสา เด็กที่จะพึงกระทำได้ด้านการศึกษา วิทยะฐานะ อ่านออก เขียนได้ จากสำนักวัดไก่เตี้ย ตำบลตลองน้อยอำเภอบ้านแพรก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การศึกษาสมัยนั้นนับว่าอยู่ในขั้นที่ยังไม่เจริญ อาจจะพูดได้ว่าหาโรงเรียนทำยายาก ยิ่งในถิ่นธุรกันดาร ก็ยิ่งจะไม่มีโรงเรียนเอาเสียเลย กุลบุตรหรือเยาวชนชายก็พอจะมีโอกาสบ้าง ถ้าสนใจที่จะศึกษา คือพ่อแม่หรือผู้ปกครองนำไปมอบให้เป็นศิษย์ของสมภารเจ้าวัดหรือพระภิกษุ องค์ใดองค์หนึ่ง แต่ถ้าเป็นกุลธิดาอาจจะไม่มีโอกาสได้ร่ำเรียนหรือศึกษา หาความรู้เลยหลวงพ่อท่านเป็นพระผู้สนใจในการศึกษาพอสมควร พอว่างจากการงานจึงเข้าเรียนจากสำนักวัดดังกล่าวข้างต้น ครั้งถึงเวลาทำไร่ทำนา ท่านก็ไปช่วยโยมทำนา ท่านได้ปฏิบัติอยู่ดังนี้ จนมีความรู้ภาษาไทยอ่านออกเขียนได้ประกอบกับ มีความเลื่อมใสศรัทธา ในบวรพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า ครั้นอายุครบอุปสมบท โยมบิดามารดาจึงทำการอุปสมบทตามประเพณีชายไทยตามวันเวลาดังกล่าวข้างต้นตำแหน่งและสมณศักดิ์ เมื่ออุปสมบทแล้ว 5 พรรษาได้ปกครองวัดและเป็นเจ้าอาวาสวัดโบสถ์ตำบลโก่งธนู เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 เป็นต้นมา เป็นเจ้าคณะตำบลโก่งธนูเมื่อ 29 กันยายน พ.ศ. 2480 เป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2482 เป็นพระครูสัญญาบัตรเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2496 เมื่อปี พ.ศ. 2516 มีพระภิกษุจำนวน 28 รูป สามเณร 2 รูป ศิษย์วัด 30 คน การปกครองเป็นปกติด้วยดีเสมอมาไม่มีอธิกรณ์ใดๆ เกิดขึ้นตลอดระยะเวลา 68 ปี นับว่ามีอายุครบปกครอง ดีเสมอต้นเสมอปลายมาตลอดผลงาน การก่อสร้าง เมื่อท่านได้เข้ารับหน้าที่เจ้าอาวาส เมื่อ พ.ศ. 2468 ท่านได้บำเพ็ญคุณงามความดีต่างๆ ได้ส่งเสริมการศึกษาพระปริยัติธรรมแด่พระภิกษุสามเณรภายในวัด ซึ่งเป็นผลให้พระภิกษุสามเณรสอบนักธรรมได้หลายรูป ท่านได้มีเมตตาสั่งสอนเพื่อสหธรรมิก ตลอดจนอุบาสกอุบาสิกาให้ตั้งอยู่ในความดี และให้ความสะดวกแก่พุทธศาสนิกชน ที่จะประกอบการกุศล ด้วยคุณงามความดีที่พระเดชพระคุณได้บำเพ็ญมา ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2596 จึงได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสถาปนาพระเดชพระคุณเป็นพระครูสัญญาบัตรที่ 'พระครูประสาทวรคุณ' ท่านได้ก่อสร้างและซ่อมแซมถาวรวัตถุภายในวัดโบสถ์แห่งนี้เรื่อยมา โดยมิได้หยุดยั้ง ผลงานของท่านจะอวดและกล่าวโดยสรุปได้ดังนี้1. สร้างโบสถ์หลังใหม่2. สร้างโรงเรียน3. สร้างสถานีอนามัยชั้น 24. สร้างศาลาท่าน้ำ5. ซ่อมโบสถ์และกำแพงแก้ว6. สร้างศาลาการเปรียญ7. สร้างฌาปนสถาน (เมรุ)8. สร้างกุฎิ9. สร้างสะพานข้ามแม่น้ำมูลค่าในการก่อสร้างทั้งหมดนี้หลายล้านบาทคุณธรรม หลวงพ่อพริ้ง นับว่าเป็นเพชรน้ำเอกของเมืองละโว้ธานีองค์หนึ่ง พระเดชพระคุณท่านนับว่าเป็นพระเถระ ที่ทรงคุณธรรมหลายประการ ใครๆ ที่ได้มาเยี่ยมเยือนหรือสัมผัสพูดคุย มักจะประทับใจในอริยาบทและวัตรปฏิบัติตลอดจนอุปนิสัยใจคออันเยือกเย็นของพระคุณท่าน หลวงพ่อเป็นพระที่พูดน้อย มีลูกศิษย์ลูกหามาก เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของหมู่ชนทุกระดับชั้นยิ่งในแถวถิ่นโก่งธนูด้วยแล้วใครไม่รู้จักหลวงพ่อก็แสนจะเชยสิ้นดี เมื่อหลวงพ่อบวชแล้วก็หาโอกาสเดินธุดงค์วัตรไปในสถานที่ต่างๆหลายแห่ง บางแห่งต้องผจญกับสัตว์ร้ายนานาชนิดไม่ว่าจะเป็นผีสางนางไม้หรือภัยนานาประการ หลวงพ่อได้ประสบพบอยู่เป็นประจำจนชินชา หลวงพ่อต้องการหาความวิเวก ขณะเดินธุดงค์ก็ได้พบกับพระอาจารย์ต่างๆ อยู่ไม่น้อย ต่างก็ถ้อยทีถ้อยอาศัย แลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อป็นการถ่ายทอดวิชาไสยาศาสตร์เวทย์มนต์ ให้แก่กันและกัน และการที่หลวงพ่อมีวิริยะอุตสาหะอย่างล้นเหลือ หลวงพ่อได้ท่องบ่นตำราจากสมุดเก่าๆ และตำรับตำราต่างๆ ที่ได้ร่ำเรียนมาจากอาจารย์ต่างๆ ทั้งในจังหวัดลพบุรีและจังหวัดใกล้เคียงบ้านเช่น อยุธยา, อ่างทอง, สิงห์บุรี,สระบุรี และที่อื่นๆ อีกด้ววยหลวงพ่อพริ้งได้พยายามศึกษาร่ำเรียนด้วยตนเองบ้าง จนเป็นเกจิอาจารย์ที่เรืองวิชาน่าอัศจรรย์ยิ่งทีเดียวหลวงพ่อพริ้งมีพรสวรรค์อยู่ในตัว ท่านสามาถท่องบ่นหรือสวดมนต์เช้า-เย็น โดยไม่ต้องต่อจากพระในวัด เพียงแต่จดจำพระรุ่นพี่ๆ ในระยะแรกๆ ท่านท่องจำเจ็ดตำนาน สิบสองตำนานและสามารถท่องปฏิโมกข์ได้คล่องแคล่วสมบูรณ์ดีด้วยประการทั้งปวง นับว่าสติปัญญาของหลวงพ่อเป็นเลิศการเขียนการอ่านโดยมาก มักจะเรียกด้วยตนเองเสมอ ประกอบกับหลวงพ่อมีบารมีอันสูงส่ง อนาคตของหลวงพ่อจะต้องรุ่งเรืองในบวรพระพุทธศาสนาอย่างแน่แท้ถึงแม้ว่าหลวงพ่อจะเป็นพระหนุ่มในขณะนั้น แต่ก็เคร่งครัดในกฎระเบียบของพระธรรมวินัยในสมัยนั้น เรียนทั้งพระธรรมวินัย(พระปริยัติธรรม) และเรียนภาษาขอมรวมกันไปด้วยจากสำนักวัดไก่เตี้ยจนความรู้แตกฉาน ท่านได้รวบรวมตำรับตำราต่างๆ ไว้มากมาย เช่น ตำรายากลางบ้านตำราแพทย์แผนโบราณ ตำราเวทย์มนต์คาถา และตำราไวยาศาสตร์ ไวยเวท ไว้มากพอสมควรหลวงพ่อพริ้งเป็นพระเถรรูปหนึ่งที่ชาวลพบุรีและจังหวัดใกล้เคียงเคารพนับถือท่านมาก หลวงพ่อได้มุ่งมั่นประกอบศาสนกิจ เพื่อบำรุงพุทธศาสนาโดยจิตมั่น เพื่อเจริญรอยตามเบื้องยุคลาบาทขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า หลววงพ่อจึงได้รับแต่งตั้ง ตามตำแหน่งต่างๆ ดังได้กล่าวข้างต้นการเผยแพร่ศาสนานั้นหลวงพ่อได้จัดอบรมให้มีการฟังธรรมฟังเทศน์ตามไตรมาส มีอุบาสกอุบาสิกาและประชาชนโดยทั่วไปเข้ารับการอบรมเป็นจำนวนไม่น้อย การทำบุญกุศลหรืองานประเพณีต่างๆ ซึ่งเกี่ยวกับทางวัดแล้ว หลวงพ่อมีวิเทโสบายและอุบายให้คนทั้งหลายมาร่วมกันได้เป็นอันมาก หลวงพ่ออำนวยความสะดวกให้ในทุกกรณีเมื่อปี พ.ศ. 2500 หลวงพ่อได้มีอายุ 57 พรรษา บรรดาลูกศิษย์ลูกหาของหลวงพ่อได้อ้อนวอนให้หลวงพ่อออกวัตถุมงคล เพื่อจะได้ให้ศิษยานุศิษย์และญาติโยมผู้ใกล้ชิดไว้เป็นที่ระลึก และเพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจ ปลายปี พ.ศ.2500 ก็มีศิษย์อ้อนวอนท่านอีก 'สร้างเถอะหลวงพ่อ' หมายถึงสร้างวัตถุมงคล หลวงพ่อท่านทนต่อคำรบเร้าอ้อนวอนของบรรดาศิษย์ไม่ไหว ท่านจึงพูดว่า 'จะเอาอย่างไร ก็เอากัน' หลวงพ่อบุญช่วย เขมโก ผู้เป็นผู้ช่วยของหลวงพ่อหาโอกาสนี้มานาน แต่ไม่กล้าออก ความเห็น จึงนมัสการกับหลวงพ่อขึ้นว่า ควรจะทำเป็นเหรียญ ซึ่งจะถาวรต่อการใช้ไว้นานๆ ไม่เหมือนกับพระเนื้อผง อันอาจจะเสียหายและหักง่าย จากการเสนอแนะของหลวงพ่อบุญช่วย และบรรดาลูกศิษย์ของหลวงพ่อจึงได้ตกลง ออกแบบเป็นรูปเหรียญสี่เหลี่ยม ด้านหน้ามีรูปของหลวงพ่อนั่งพร้อมพัดยศ ชั้นโท ด้านหลังเป็นยันต์เขียนว่ารุ่น ๑ ใช้เนื้อฝาบาตรปั๊ม ห่วงหูในตัว กะหลั่ยเงินกะหลั่ยทองที่พื้นเหรียญ ออกไม่มากนัก ราคารุ่นนี้แพงเป็นพัน เพราะถือว่าเป็นเหรียญรุ่นแรก เหรียญนี้หลวงพ่อพริ้งได้นั่งปรกปลุกเสกเดี่ยวด้วยพุทธาคมอันเข้มขลัง นักเล่นเหรียญทั้งหลายมักจะเสาะหาเหรียญของหลวงพ่อรุ่นแรกนั้นเป็นจำนวนไม่น้อย ใครมีไว้ในครอบครองจงหวงแหน อย่าจำหน่ายจ่ายแจกเพราะเป็นของดี มีคนที่มีประสบการณ์มาแล้วจากเหรียญนี้ จากเหรียญรุ่นหนึ่งนี่เองทำให้หลวงพ่อพริ้งมีชื่อเสียงโด่งดัง หลวงพ่อได้สร้างเหรียญอีกรุ่นต่อมาเป็น พ.ศ 2504เหรียญรุ่นนี้ทำให้หลวงพ่อยิ่งกว่าพลุโด่งดังจนถึงขีดสุด จากเหรียญดังกล่าวแล้ว ยังมีแหวนรูปหลวงพ่อซึ่งเป็นแหวนลงยา มีทั้งแหวนทองคำ แหวนเงิน และอาปาก้า เป็นแหวนลงยา ปลุกเศกในคราวเดียวกัน และมีความนิยมไม่แพ้เหรียญ ลักษณะของแหวนด้านบนของหัวแหวนซึ่งมีรูปของหลวงพ่อจะมีลักษณะคล้ายรูปโล่ มีตัวอักษรสองข้าง ข้างขวามีคำว่า 'หลวง' ข้างซ้ายมีความว่า 'พ่อพริ้ง' ปัจจุบันเริ่มหายากเหมือนกัน จำนวนการสร้างประมาณ 2,000 วง บรรดาลูกศิษย์ลูกหาต่างก็บูชาไว้ใช้คนละวงสองวง วัตถุมงคลรุ่นแรกหนักแน่นไปในทางแคล้วคลาดคงกระพันชาตรี เพราะผู้ใช้ได้ประสบการณ์จากการใช้วัตถุมงคลของหลวงพ่อมากรายด้วยกันหลังจากหลวงพ่อได้สร้างวัตถุมงคลรุ่นแรกแล้ว ท่านก็ไม่คิดหรือจะออกของอีก ชั่วระยะไม่นานนักทั้งเหรียญและแหวนเริ่มหมด คณะกรรมการต่างปรึกษาหารือกันจะขออนุญาตสร้างแบบกึ่งเหรียญกึ่งรูปหล่อ หรือที่เรียกกันว่าหลังเตารีด เมื่อกรรมการปรึกษากันแล้ว จึงเรียนให้หลวงพ่อท่านทราบ หลวงพ่อก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร
"จะให้สร้างหรือไม่ให้สร้างก็ไม่พูด"
เพราะหลวงพ่อท่านเป็นพระรักสันโดษและมักน้อย กรรมการต่างก็พากันกลับโดยมิได้ปริปากต่อไปอีกกระทั่งปลายปี พ.ศ. 2505 กรรมการชุดเดิมนั่นแหละ เห็นว่าความต้องการของบรรดาลูกศิษย์และประชาชนคนทั่วไป
มีความเลื่อมใสศรัทธามาก ประกอบกับของที่ออกแต่ละครั้งไม่ทั่วถึงผู้ที่ใฝ่หาและความต้องการของประชาชน ศิษยานุศิษย์และกรรมการจึงเรียกร้องอ้อนวอนให้หลวงพ่อออกของอีกสักรุ่นโดยบอกว่าวัตถุมงคลเมื่อปี 2504 ให้ได้บูชากันไปยังไม่ทั่วถึง คณะกรรมการได้กราบเรียนให้หลวงพ่อทราบ หลวงพ่อก็ตอบสนองตามอัธยาศัยของบรรดาศิษย์และกรรมการ เมื่อหลวงพ่ออนุญาตต่างก็ดีอกดีใจไปตามๆ กัน และคณะกรรมการได้ลงไปกรุงเทพฯ มอบแบบตามที่ต้องการ สร้างวัตถุมงคลรุ่นปี พ.ศ. 2505 เมื่อสร้างเสร็จก็นำมาให้หลวงพ่อปลุกเสกเดี่ยวจนครบไตรมาส(หนึ่งพรรษา) ลักษณะของรูปวัตถุ คือรูปของหลวงพ่อ(แบบหลวงปู่ทวด) เรียกว่ารุ่นหลังเตารีดมีทั้ง 2 แบบคือ แบบหนึ่งมีห่วง และแบบหนึ่งไม่มีห่วง แบบไม่มีห่วงหรือหูห้อยนักสะสมเรียกว่ารุ่น หายห่วง หรือหมดห่วง ครั้นเมื่อหลวงพ่อปลุกเสกแล้ว ก็เปิดให้สาธุชนผู้เลื่อมใสเช่าบูชา นักสะสมบางคนต่างพากันสะสมและแสวงหากันเป็นจำนวนมากมีผู้ที่ไปถึงวัดไม่เว้นแต่ล วัน พระรุ่นหลังเตารีดของหลวงพ่อพริ้งครั้งนี้ เป็นแบบปั๊ม รมดำทำด้วยเนื้อทองผสม ทุกวันนี้เริ่มจะหายาก และราคาก็แพง และยังให้โรงงานสร้างรูปหล่อลอยองค์ขึ้นอีกในปี 2505 เรียกรุ่นที่มียันต์ที่ฐาน มีตัวอักษร ขอมอ่านว่า นะ มะ พะทะ ดินนำ้ลมไฟ ปี พ.ศ. 2506 หลวงพ่อมิได้ออกของหรือวัตถุมงคลใดๆ เพราะภารกิจติดนินมต์ และงานล้นตัว หลวงพ่อท่านไม่ปฏิเสธการนิมนต์ ท่านจะรับนิมนต์ไม่เลือกชั้นวรรณะ ไม่ว่ามีหรือจน หลวงพ่อเป็นพระเถระที่ไม่ถือตัวไม่ว่าใครจะนิมนต์ไปฉันหอ, ขึ้นบ้านใหม่, โกนจุก,งานบุญ,งานบ้าน,งานบวช,งานสวด,งานศพ ใครนิมนต์ไม่เคยขัดนอกจากป่วย วันหนึ่งหลวงพ่อท่านรับนิมนต์ไปเป็นอุปัชฌาย์ เจ้าภาพนำเอารถมอเตอร์ไซด์รับท่านไปในเส้นทางที่แสนลำบาก บางครั้งต้องวิ่งกลางทุ่งนา บางครั้งต้องวิ่งบนคันนา บังเอิญรถมอเตอร์ไซด์ตกหล่นจากคันนา หลวงพ่อก็หล่นกลิ้นไปตามรถทั้งคนขับ เมื่อลุกขึ้นคนขับก็ถามว่าหลวงพ่อเป็นอะไรบ้างครับ ก็ได้รับคำตอบจากหลวงพ่อ ไม่เป็นอะไรหรอก หลวงพ่อไม่เคยบ่นหรือปริปากแต่ประการใด ทั้งที่เจ็บๆ เล็กๆ น้อยๆ ในเมื่อหลวงพ่อบอกว่าไม่เป็นอะไรคนขับก็ขับรถให้หลวงพ่อนั่งซ้อนท้ายไปจนถึงวัดที่บวชจนได้ นี่ก็แสดงว่า หลวงพ่อพริ้งท่านเปี่ยมล้นไปด้วย วิริยะคุณ เมตตาคุณ กิจนิมนต์ของหลวงพ่อไม่เคยว่างเว้น ไม่ว่างานพุทธาภิเษกเล็กหรือใหญ่ จะมีชื่อของหลวงพ่อเสมอๆ ลงโฆษณาติดใบปลิวเกือบทั้งพิธีนอกจากงานนิมนต์ดังที่กล่าวมาแล้ว งานในวัดของหลวงพ่อเองก็มีอยู่มากพอสมควรในยามว่างหลวงพ่อจะปลูกพืชผลไม้ทั้งชนิดล้มลุกและยืนต้น ในขณะนั้นรั้วของวัดยังไม่เรียบร้อย เมื่อปลูกพืชมีผลออกมา วัวควายของชาวบ้านมักจะเข้ามาขบเคี้ยวกัดกินทำให้พืชผลเสียหายอยู่เสมอ ทายกวัดก็ไม่กล้าไปว่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงดังกล่าวก็เข้ามากัดกินของในวัดเสียหาย ทายกคนหนึ่งเห็นเข้าก็มาบอกกับหลวงพ่อให้ทราบ แทนที่หลวงพ่อจะโกรธแค้นท่านกลับสงบสติอารมณ์ แล้วท่านก็กล่าวขึ้นลอยๆ ว่า...
"มนุษย์เรานี้ไม่ค่อยมีความเกรงอกเกรงใจกันเลย สัตว์เป็นเดียรฉานอย่างหนึ่งที่ไม่สามารถพูดได้เหมือนกัน เมื่อคนปล่อยมันออกมามันก็ต้องหากินของมันไปตามประสาสัตว์ คนเรากินข้าวก็น่าจะมีความนึกคิดอะไรเหมาะ อะไรไม่เหมาะ คนอย่างนี้คงไม่กินข้าวละมัง คงกินแกลบกินรำ"
หลังจากที่หลวงพ่อพูดออกไปได้ไม่กี่ปี เจ้าของสัตว์ผู้มีฐานะมั่งคั่งก็ประสบหายนะ กล่าวคือค้าขายก็ขาดทุน ออกเงินให้เขากู้ก็ถูกโกง ทำอะไรก็ไม่เกิดมักผล ชีวิตในบั้นปลายสุดท้ายถึงกับซื้อเรือกระแชงล่องแกลบไปขายถึงกรุงเทพฯ ปัจจุบันพ่อค้าคนนั้นสิ้นชีวิตไปแล้วและอีกเรื่องหนึ่งที่อดกล่าวเสียมิได้นั้นคือภายในบริเวณวัดมีผลไม้หลายอย่างอาทิเช่น กล้วย,มะม่วง,ขนุน,ต่างก็ออกผลตามฤดูกาล ขนุนก็ออกผลใหญ่แก่ก็ซึ่งน่าจะติดบ่มได้แล้วทายกก็ไม่กล้าตัด ก็เรียนให้หลวงพ่อทราบว่า ขนุนแก่แล้วครับหลวงพ่อ ตัดได้แล้ว ถ้าไม่ตัดขโมยมันจะลักตัดนะครับ หลวงพ่อก็พูดขึ้นว่า... 
"ปล่อยมันเถอะขโมยมันไม่กล้าขึ้นไปลักตัดขนุนหรอก มันขึ้นเดี๋ยวมันก็ตกลงมาเองแหละ"
อยู่มาได้ 2-3 วัน เจ้าขโมยเหมือนกับจะท้าทายคำพูดของหลวงพ่อ 
ก็ค่อยแอบย่องขึ้นไปตัดขนุน ยังไม่ทีนได้มีโอกาสให้ได้จับลูกขนุนเลย เกิดพลาดท่าร่วงหล่นลงมาขาหัก พรรคพวกที่ไปด้วยซึ่งคอยอยู่ข้างล่างต้องรับภาระแบกขึ้นคอหนีกลับไปรักษาขา จากสาเหตุที่เกิดขึ้น 2 ครั้ง 2 ครานี้ ทำให้สาธุชนในละแวกนั้นต่างก็โจษขานกันว่าหลวงพ่อพริ้นท่านมีวาจาสิทธิ์ เป็นที่ เกรงขามของสุจริตชนทั้งหลาย บรรดาสุจริตชนต่างพากันขอพรและขอบูชาวัตถุมงคลของหลวงพ่ออยู่เนืองนิจ วัตถุมงคลของหลวงพ่อมีหลายชนิด ที่วัดยังมีเหลือยู่อีกมาก ทางวัดได้จัดจำหน่ายจ่ายแจกให้เป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่ไปเคารพกราบไหว้ท่าน บางอย่างก็หมดไปแล้วบางอย่างยังเหลืออีกมาก หลวงพ่อพริ้งท่านได้มีเมตตาจิตปลุกเสกหลายครั้งหลายหน จนกระทั่งจำไม่ได้ว่าแต่ละครั้งมีอะไรบ้าง ท่านเคยปรารถอยู่เสมอว่า ของของหลวงพ่อทุกชนิด ทุกอย่างมีคุณภาพเท่าเทียมกันหมดไม่ว่าจะปลุกเสกเมื่อใด วัตถุต่างๆ ที่หลวงพ่อได้สร้างไว้ก็มีอาทิเช่น แหวน, เหรียญ, รูปหล่อ, ตะกรุด, ผ้ายันต์, นกคุ้ม ปลาตะเพียนเงินปลาตะเพียนทอง รูปหล่อลอยองค์ทั้งนั่งและยืน สมเด็จเนื้อผง 3 ชั้น (เล็ก-ใหญ่) 
พระสามพี่น้อง, ธงค้าขาย,และรูปล็อกเก็ต...
หลวงพ่อพริ้งมรณภาพที่โรงพยาบาลอนันทมหิดล ลพบุรี เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2527
แสดงความคิดเห็นน แจ้งลบ
ความคิดเห็น
ตู้ชงเครื่องดื่มอัตโนมัติ M Cafe Coffee

VIP AMULET ตลาดพระเครื่องออนไลน์ - รับเช่าพระเครื่อง ซื้อขายพระเครื่อง เปิดร้านขายของออนไลน์ฟรี
เปิดร้านพระเครื่องฟรี
ไหว้พระ 9 วัด - สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย และต่างประเทศ
เฟอร์นิเจอร์ไม้สัก เฟอร์นิเจอร์หลุยส์

 
VIP AMULET | ตลาดพระ
copyright 2012 © vipamulet.com
ที่อยู่ กรุงเทพมหานคร Line ID: taladphra
Email: [email protected]
Designed By VIP AMULET
Sitemap: WebPra ตลาดพระ พระเครื่อง
หน้าแรก | ตลาดพระเครื่อง | ร้านพระ | ประมูลพระ | วิธีประมูลพระเครื่อง | ราคา BID CARD | อัตราโฆษณา | แลกลิงค์ เว็บพระเครื่อง
ตลาดพระเครื่อง